วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

How to "Dream catcher"

        



1. นำไหมพรมหรือสายหนังมาพันเข้ากับวงแหวนให้ชิดไปเรื่อยๆ จนทั้งวงแหวนที่เตรียมไว้พันด้วยไหมพรมหรือสายหนังจนหมด โดยวิธีการพันนั้นให้จับปลายสายด้านหนึ่งเอาไว้ และพันอีกด้านให้ชิดต่อกันไปเรื่อยๆ จนปลายอีกข้างมาบรรจบกันกับปลายด้านแรก และผูกปลายเชือกทั้งสองเข้าด้วยกัน




2. ตัดสายหนังหรือไหมพรมอีกเส้นมาผูกเป็นห่วงทีละเสต็ปเข้าที่วงแหวนตามรูปภาพด้านล่าง หากต้องการคล้องลูกปัดก็สอดร้อยเข้าไปพร้อมกับทำไปทีละสเต็ปได้เลย ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรูตรงกลางของวงแหวนเต็มไปด้วยลายถักของไหมพรมหรือสายหนังเช่นเดียวกับในรูปด้านล่าง





3. นำไหมพรมหรือสายหนังตัดออกมายาวพอประมาณไปตกแต่งด้วยลูกปัดและร้อยขนนกเข้าไปด้วย จากนั้นนำมาผูกเข้ากับวงแหวน ตกแต่งให้ Dream catcher ของเราสวยงาม เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย นำไปแขวนตกแต่งที่หน้าต่างหรือประตูบ้านกันได้เลยค่ะ






ไม่เพียงแต่นำไอเดีย DIY ทำเองมาฝาก วันนี้เรายังมีของแถมเป็นภาพ Dream catcher สวยๆ มาเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนออกแบบตาข่ายดักจับฝันร้ายของตัวเองกันด้วยล่ะค่ะ ว่าแล้วก็ไปชมภาพที่เรานำมาเป็นแรงบันดาลใจให้เลย แล้วอย่าลืมไปเตรียมหาอุปกรณ์ DIY กันนะคะ 



     





ตาข่ายดักฝัน “Dream catcher”


     ประเพณีดั้งเดิมของชนเผ่าพื้นเมืองในอเมริกาหรือที่เรียกกันว่า เผ่าอินเดียนแดง มีการสร้างงานหัตถกรรมของชนเผ่าที่เชื่อกันว่าเป็นเครื่องรางดักจับความฝัน เรียกกันว่า “Dream catcher” มีความหมายถึง “ตาข่ายดักฝัน” หรือ “เครื่องดักความฝัน” หัตถกรรมอินเดียนแดงครั้งนี้เชื่อกันมาแต่โบราณว่าจะช่วยกรองความฝันให้ฝันดีอยู่กับตัว และฝันร้ายสลายไป ลักษณะของตาข่ายดักความฝันหรือเครื่องดักความฝันจะเป็นห่วงวงกลม ด้านในถักทอเป็นตาข่าย ด้านข้างประดับประดาด้วยขนนก ลูกปัด รวมทั้งเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆอื่นๆ

ตาข่ายดักฝัน ภาษาอังกฤษคือ Dream catcher เป็นเครื่องรางของชาวอเมริกันอินเดียนแดง หรือ native american  เป็นเครื่องรางที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลกที่มาของตาข่ายดักฝันเกิดมาจากวัฒนธรรมของชาวเผ่าอินเดียนแดงเผ่า Ojibway (Chippewa) รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นเครื่องรางสำหรับช่วยป้องกันฝันร้ายมีเรื่องเล่าตำนานเกี่ยวกับที่มาอยู่หลายแบบ ทั้งแบบธรรมดาเหมือนประวัติ ศาสตร์ที่ว่าเกิดจากยุคหนึ่งที่ผู้คน เป็นทุกข์จากฝันร้าย แต่ก็ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาได้ จนต้องมีการ รวมตัวปรึกษาหารือของเหล่า ผู้อาวุโสและผู้รู้ต่างๆเพื่อแก้ปัญหานี้ จนกระทั่งมีผู้คิดค้นการทำ Dream catcher ขึ้นมาด้วยแนวคิดต่างๆ หลักๆคือ ใยแมงมุม ขนนก แล้วก็หินลูกปัด และหลังจากที่ผู้คนเริ่มนำ ไปใช้แล้ว ปัญหาฝันร้ายก็หายไป..





ตาข่าย ดักฝันร้าย ถือว่าเป็นเครื่องรางที่ใช้ธรรมชาติบำบัด ด้วยธรรมชาติ โดยมีวิธีการใช้งานที่น่าสนใจ โดยชาวพื้นเมืองของอินเดียนแดง เป็นผู้ที่คิดค้นและทำขึ้นมา มีความเชื่อว่า

ตาข่าย จะทำหน้าที่ดักจับสิ่งที่ไม่ดี ฝันร้าย หรือ เรื่องราวไม่ดี ในความฝันของผู้ฝันนั้น 

ลูกปัด จะทำหน้าที่ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี

ขนนก หรือ ขนไก่ จะทำหน้าที่ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้าย ฝันร้าย (เรื่องของขนนก และขนไก่ พลังงานของขนทั้งสองแบบ ให้พลังงานที่ต่างกัน 

ขนนก เป็นพลังงานของการปัดเป่าสิ่งไม่ดี ให้ลอยออกไปดังสายลม แล้วพลังงานแห่งสายลมนั้นก็พัดพาพลังงานแห่งโชคชะตาความโชคดีพัดพาเข้ามา 

ขนไก่ เป็นพลังงานแห่งนักสู้ และมีสัมผัสพิเศษ ตามสัญชาติญาณแห่งสายพันธุ์ ทำให้ผู้ที่อยู่ภายใต้ขนไก่นี้ มีพลังงานแห่งการต่อสู้ฝ่าฟัน และไม่ท้อถอยกับความท้อแท้ และมีเซนส์ในการสัมผัสสิ่งที่อยู่รอบตัว โดยที่สัมผัสนั้นอาจทำให้รู้สึกไว และหลบหลีกได้ ขนไก่จะปัดเป่าความท้อแท้ ให้สัมผัสกับสิ่งที่อยู่รอบตัว เพื่อปัญหานั้นได้แก้ไขและผ่านไป)

เคล็ดลับของการใช้ตาข่ายดักฝัน 
ต้อง ให้ถูกแสงอาทิตย์บ้าง หรือภายในห้องที่มีแสงแดดเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเพียงพอ